Sign In
Sign-Up
Welcome!
Close
Would you like to make this site your homepage? It's fast and easy...
Yes, Please make this my home page!
No Thanks
Don't show this to me again.
Close
เว็บไซต์ส่วนตัว
หน้าแรก
ประวัติส่วนตัว
ความภาคภูมิใจ
สมุดเยี่ยม
::.รู้จักอัลกุรอาน.
พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานทะยอยประทานมาให้แก่ท่านนบีมุฮัมมัด นับตั้งแต่ท่านได้รับวะหฺยุ (วิวรณ์) ครั้งแรก ขณะที่ท่านอายุ 40 ปี จนถึงอายุ 63 ปี รวมเวลาของการประทานอัลกุรอานทั้งหมด 23 ปี
ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต (วะฟาต) ท่านได้อ่านอัลกุรอานทั้งหมดต่อหน้าญิบรีลในเดือนรอมฎอนสุดท้ายของชีวิตท่าน 2 ครั้ง ซึ่งเดิมแล้วท่านจะอ่านต่อหน้าญิบรีลทุกๆปีในเดือนรอมฎอน 1 ครั้ง และการอ่านครั้งสุดท้ายนี้ท่านได้อ่านอัลกุรอานเรียงตามอายะฮฺเหมือนดังรูปเล่มอัลกุรอานที่เราได้อ่านกันทุกวันนี้ นอกจากนี้ญิบรีลยังได้สอนการอ่านอัลกุรอานทั้ง 7 สำเนียงอีกด้วย
เพราะฉะนั้นอายะฮฺแต่ละอายะฮฺจึงได้รับการตรวจสอบจากท่านนบียฺเองโดยตรง บรรดาเศาะฮาบะฮฺจำนวนหลายร้อยคนที่จดจำอัลกุรอานทั้งเล่ม อย่างไรก็ดีอัลกุรอานยังไม่มีการจัดพิมพ์ให้อยู่ในเล่มเดียวเหมือนปัจจุบัน เนื่องจากในสมัยนั้นยังไม่มีกระดาษและระบบการพิมพ์ บรรดาเศาะฮาบะฮฺแต่ละท่านก็มีการรวบร่วมอัลกุรอานกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งแน่นอนว่ามีการจัดลำดับก่อนหลังที่ไม่ตรงกัน
ภายหลังท่านนบีได้จากไปท่านอุมัรได้สนับสนุนให้ท่านอบูบักร (632-634) คอลีฟะฮฺแห่งอิสลาม รวบรวมอัลกุรอานให้อยู่ในเล่มเดียวกันอย่างเป็นสากล ให้เป็นไปตามลำดับที่ท่านนบีได้อ่านให้ญิบรีลก่อนจากโลกนี้ไป เนื่องจากว่าได้มีเศาะฮาบะฮฺที่จำอัลกุรอานทั้งเล่มเสียชีวิตไปในสงครามยะมามะฮฺหลายท่าน ท่านอบูบักรได้มอบงานนี้ให้กับซัยดฺ บิน ษาบิต เศาะฮาบะฮฺที่เชี่ยวชาญอัลกุรอาน ทำการรวบรวมอัลกุรอานตามที่ท่านนบีได้อ่านเป็นครั้งสุดท้ายกับญิบรีล อัลกุรอานฉบับนี้ได้รับการเก็บรักษาไว้ที่บ้านของฮับเซาะฮฺ บุตรสาวของท่านอุมัร
ในสมัยของท่านเคาะลีฟะฮฺคนที่สามแห่งอิสลามคือท่านอุษมาน บิน อัฟฟาน รัฐอิสลามได้ขยายตัวออกไปกว้างไกล ท่านจึงต้องการที่จะทำการคัดลอกต้นฉบับของอัลกุรอานส่งไปตามหัวเมืองต่างๆ เพื่อการเผยแผ่อัลกุรอานที่เป็นระบบ มีการจัดเรียงลำดับซูเราะฮฺอย่างถูกต้อง รวมไปถึงการออกเสียงที่สอดคล้องกันทั้งรัฐ ท่านได้มอบงานนี้ให้ซัยดฺ บิน ษาบิต และเศาะฮาบะฮฺกลุ่มหนึ่งทำการคัดสำเนาจากอัลกุรอานของท่านหญิงฮับเซาะฮฺส่งออกไปทั่วโลกมุสลิม ต้นฉบับชุดนี้บางเล่มยังคงมีอยู่ในโลกมุสลิม
เมื่อเราทราบประวัติความเป็นมาของอัลกุรอานโดยย่อ เราก็พอจะเห็นเป็นเค้าโครงว่าอัลกุรอานได้รับการบันทึกเป็นเล่มอย่างเคร่งครัด แต่อย่างไรก็ตามวิธีการเด่นที่รักษาอัลกุรอานไว้ได้อย่างไม่มีใครเถียงนั่นก็คือ "การท่องจำ" ที่ดำเนินผ่านศตวรรษแล้วศตวรรตเล่า บุคคลแรกที่จำอัลกุรอานทั้งเล่มก็คือ ท่านนบีมุฮัมมัด ซึ่งท่านได้รับอัลกุรอานทะยอยลงมา 22.5 ปี และคนรุ่นแรกที่จดจำต่อจากท่านก็คือบรรดาเศาะฮาบะฮฺจำนวนหลายร้อยคน จากนั้นก็ถ่ายทอดสู่คนรุ่นต่อไป จนถึงทุกวันนี้ ชาวมุสลิมแทบทุกคนจะจำอัลกุรอานได้บางส่วน และมีบางคนสามารถจดจำได้ตลอดทั้งเล่ม ฉะนั้นเป็นที่ยอมรับกันว่าวิธีการจดจำอัลกุรอานแบบท่องจำ กลายเป็นวีธีการหลักในการรักษาอัลกุรอานเอาไว้ตลอดระยะเวลาของประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
ความมหัศจรรย์แห่งการท้าทาย อัลกุรอานเป็นอายะฮฺที่ถูกประทานมาจากอัลลอฮฺ ชาวมุสลิมเองได้พบหลักฐานที่นำมาพิสูจน์เรื่องนี้มากมาย ซึ่งเป็นที่ภูมิใจแก่ชาวมุสลิมเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น ในทางภาษาศาสตร์ ภาษาที่อัลกุรอานใช้นั้นสั้นแต่มีความหมายที่ชัดเจน การนำคำที่ง่ายๆแต่งดงามมาใช้สื่อความ ลีลาที่เร่งเร้าและแทงทะลุเข้าสู่จิตใจของมนุษย์เป็นรูปแบบพิเศษในการใช้ภาษา การเริ่มต้นการลงท้าย การวางตำแหน่งของคำ เป็นรูปแบบที่งดงามไร้ที่ติ นี่เป็นสิ่งที่ประจักษ์ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญภาษาอาหรับ
และเมื่ออัลกุรอานได้บันทึกเรื่องใดเรื่องนั้นเป็นความเป็นจริงเสมอ ซึ่งถูกพิสูจน์มาแล้วทั้งสิ่งที่ผ่านมาและสิ่งที่เกิดขึ้นภายหลัง เช่น
และบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นไม่เห็นดอกหรือว่า แท้จริงชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนั้นแต่ก่อนนี้รวมติดเป็นอันเดียวกัน แล้วเราได้แยกมันทั้งสองออกจากกัน และเราได้ทำให้ทุกสิ่งมีชีวิตมาจากน้ำ ดังนั้นพวกเขาจะยังไม่ศรัทธาอีกหรืออัล อัมบียาอฺ 21.30)
โอ้ชุมนุมแห่งญินและมนุษย์ทั้งหลาย เอ๋ย! หากพวกเจ้ามีความสามารถที่จะผ่านไปให้พ้นขอบฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินนี้ได้ ก็จงผ่านไปให้พ้นเถิด แต่ว่าพวกเจ้าไม่สามารถที่จะผ่านไปให้พ้นได้เว้นแต่ด้วยพลัง (พระบัญชาและพระประสงค์ของอัลลอฮฺ) (อัร เราะมาน 55.33)
ที่ต้องสังเกตเป็นพิเศษก็คือ นบีมุฮัมมัดนั้นไม่เคยศึกษาเล่าเรียน หรือผ่านสถาบันใดๆมาเลย เป็นผู้นำคัมภีร์เล่มนี้มาประกาศ จึงไม่สามารถสันนิษฐานว่าท่านเป็นคนประพันธ์สิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนี้เองที่อัลกุรอานเป็นสิ่งหลักที่ใช้ยืนยันว่าท่านนบีมุฮัมมัดเป็นผู้นำสาส์นมาจากผู้เป็นเจ้า
และหากปรากฏว่าพวกเจ้าอยู่ในความแคลงใจใด ๆ จากสิ่งที่เราได้ลงมาแก่บ่าวของเราแล้ว ก็จงนำมาสักซูเราะฮฺหนึ่งเยี่ยงสิ่งนั้น และจงเชิญชวนผู้ที่อยู่ในหมู่พวกเจ้าอื่นนอกจากอัลลอฮฺหากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง (อัล บะเกาะเราะฮฺ 2.23)
หรือพวกเขากล่าว่า "เขา (มุฮัมมัด) เป็นผู้ปั้นแต่งขึ้น" จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) "พวกท่านจงนำกลับมาสักบทหนึ่งเยี่ยงนั้น และจงเรียกร้องผู้ที่พวกท่านสามารถนำมาได้ นอกจากอัลลอฮ์ หากพวกท่านเป็นผู้สัจจริง" (ยุนุส 10.38)
หรือพวกเขากล่าวว่า "เขา (มุฮัมมัด) ได้ปลอมแปลงอัลกุรอานขึ้นมา" (มุฮัมมัด) จงกล่าวเถิด "ดังนั้น พวกท่านจงนำมาสักสิบซูเราะฮ์ที่ถูกปลอมแปลงขึ้นให้ได้อย่างอัลกรุอาน และพวกท่านจงเรียกผู้ที่มีความสามารถในหมู่พวกท่านอื่นจากอัลลอฮ์ (ให้มาช่วย) ถ้าพวกท่านเป็นพวกสัตย์จริง (ฮูด 11.13)
จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด แน่นอนหากมนุษย์และญินรวมกันที่จะนำมาเช่นอัลกุรอานนี้ พวกเขาไม่อาจจะนำมาเช่นนั้นได้ และแม้ว่าบางคนในหมู่พวกเขาเป็นผู้ช่วยเหลือแก่อีกบางคนก็ตาม (อัล อิสรออฺ 17.88)
พวกเขาไม่พิจารณาดูอัลกุรอานบ้างหรือ ? และหากว่า อัลกุรอานมาจากผู้ที่ไม่ใช่อัลลอฮฺแล้วแน่นอนพวกเขาก็จะพบว่าในนั้นมีความขัดแย้งกันมากมาย (อัล นิสาอฺ 4.82)
แท้จริงเราได้ให้ข้อตักเตือน (อัลกุรอาน) ลงมา และแท้จริงเราเป็นผู้รักษามันอย่างแน่นอน (อัล อิจญฺ 15.9)
หากพวกเขาไม่ตอบสนองการเรียกร้องของพวกท่านก็จงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลกรุอานถูกประทานลงมาด้วยวะฮีย์ของอัลลอฮ์ และนั่นคือไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ แล้วพวกเจ้า (มุชริกีน) ยังมินอบน้อมอีกหรือ?" (ฮูด 11.13-14)
คัมภีร์เปลี่ยนโลก แม้คัมภีร์อัลกุรอานจะเป็น "สื่อ" ที่สำคัญที่สุดในการพิสูจน์ความแท้จริงของอิสลามว่าเป็นศาสนาที่ถูกประทานมาจากผู้เป็นเจ้า แต่อย่างไรก็ตาม คัมภีร์นี้ไม่ได้มาเพียงแค่ให้คนอ่านตีความไปวันๆหนึ่ง แต่มันเพื่อนำมนุษยชาติไปสู่แนวทางที่ถูกต้อง
และคัมภีร์อันชัดแจ้งนั้นได้มายังพวกเจ้าแล้ว ด้วยคัมภีร์นั้นแหละ อัลลอฮ์จะทรงแนะนำผู้ที่ปฏิบัติตามความพึงพระทัยของพระองค์ ซึ่งบรรดาทางแห่งความปลอดภัย และจะทรงให้พวกเขาออกจากความมืดไปสู่แสงสว่างด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์ และจะทรงแนะนำพวกเขาสู่ทางอันเที่ยงตรงอัล มาอิดะฮฺ 5.15-16)
ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ได้กล่าวว่า อัลลอฮฺทรงยกประชาชาติต่างๆเพราะคัมภีร์เล่มนี้ และได้ทรงทำให้ชาติอื่นๆอีกตกต่ำก็เพราะคำภีร์เล่านี้ (อัด ดะเราะมียฺ หมายเลข 3231)
คัดลอกจาก:
เว็บไซต์ muslimthai